Uncategorized
ชีวิตผู้ประกาศข่าวช่องดัง กิตติ สิงหาปัด

ทุกวันนี้หลายๆคนเตรียมตัวเข้าสู้ ช่วงวัยเกษียณ หรือไม่ก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่ใกล้เกษียณ แต่ก็ยังเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดี เพราะถึงตอนนั้นเราไม่สามารถรูได้เลยว่า เราจะเจออะไร บ้าง

หากนึกถึงผู้ประกาศข่าวแนวหน้าของวงการอีกคน และอยู่ในวงการมาเป็นเวลาหลายเกือบ 20 ปี หนึ่งในนั้นก็คือคุณกิตติ สิงหาปัต

ที่ทำงานในฐานะผู้ประกาศข่าวมาเป็นระยะเวลานาน และกว่าจะมีวันนี้ได้ตัวเขาเองก็ภูมิใจ

ที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยความสามารถของตนเอง จากเด็กบ้านนอกคนนึง มาเป็นผู้ประกาศข่าวที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง

ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกาศข่าวแถวหน้าอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้สำหรับ “กิตติ สิงหาปัด” ซึ่งเขาผู้นี้คลุกคลีอยู่ในวงการข่าวสารมากว่า 14 ปี

จนกระทั่งได้ก้าวขึ้นมาอ่านข่าวอยู่หน้าจอโทรทัศน์ จนเป็นที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง งานนี้ วู้ดดี้ ได้เดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่น

ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ประกาศข่าวชื่อดังคนนี้ โดย กิตติ สิงหาปัด ได้พาชมบ้านที่ขอนแก่น ซึ่งเขายอมรับว่า

ด้วยงานที่รัดตัว ทำให้ปีๆหนึ่งกลับมาที่บ้านแค่เพียง 2 ครั้ง ส่วนบางปีก็แทบไม่ได้กลับบ้านเลย ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้

แต่ครั้นจะทิ้งงานบางคืนไป ก็คงไม่สามารถทำได้ กิตติ เริ่มเล่าให้ฟังว่า อาชีพทำข่าวคือสิ่งที่เขาถนัดที่สุด เพราะมันคือการอยู่กับความจรจิง

โดยเขาบอกว่าชีวิตของเขานั้นเริ่มจากศูนย์เลยก็ว่าได้ เพราะมาจากครอบครัวชนบท เขาเป็นเด็กบ้านนอกธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ได้มีเส้น มีสายอะไร

แล้วค่อยๆไต่เต้าขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ได้ด้วยตัวเอง เพราะงานนักข่าวเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถของตัวเองจริงๆ

เมื่อถ่ายว่า คิดจะเข้าสู่วงการการเมืองหรือไม่ กิตติ ตอบกลับทันทีว่า ไม่คิดจะเล่นการเมืองแน่นอน เพราะเชื่อว่าคงทำประโยชน์อะไรให้ประเทศไม่ได้เท่ากับการเป็นนักข่าว

และหากคนสายข่าวเข้าไปอยู่วงการการเมือง ก้คงกลับาทำงานสื่อเหมือนเดิมไม่ได้อีก เพราะมีตราของพรรคที่ไปสังกัดนั้นเป็นชนักติดหลังอยู่

ซึ่งอาจจะทำให้คนมองว่า นักข่าวคนนี้เอนเอียงไปข้างในข้างหนึ่งแล้วนั่นเอง นอกจากนั้น กิตติ ยังพูดถึงรายการ ข่าวสามมิติ

เพราะมองเห็นภาพว่าเป็นรายการคนละแนวกัน ส่วนที่มีคนสงสัยวา กิตติ จะไม่กินเส้นกับ สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา หรือไม่

เพราะทั้งสองคนมาในสายงานเดียวกัน และเป็นคนข่าวแถวหน้าของประเทศกันเท่าคู่ ซึ่งงานนี้ กิตติ ได้ตอบว่า

ไม่มีปัญหากันแน่นอน และการที่ช่อง 3 มีนักข่าวเก่งๆดังๆก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเอกลักษณ์บุคลิกของแต่ละรายการไม่เหมือนกัน ซึ่งผู้ใหญ่ของช่องก็คงเห็นถึงความแตกต่างในจุดนี้แล้ว
