Uncategorized
น้องมายต์ ป่วนเมือง หลังจากขอห่างวงการ


โตเป็นสาวและกลายเป็นคุณแม่ไปแล้วสำหรับ มายด์ บุณย์พัชรี แสงทองวีรกุล หรือ น้องมายด์ ป่วนเมือง เจ้าของเพลงฮิตดังทั้งเมือง “เด็กดอยใจดี” เมื่อปี 2549

ที่มีท่อนฮุคติดหู “ผมเอาแคร์รอตมาฝาก อยากให้เธอได้กิน ผักมีวิตามิน ไม่ต้องกินของแพง” เชื่อว่าหลายคนยังจำเพลงนี้กันได้ เพราะจนถึงปัจจุบันนี้ยังมีหลายคนร้องเพลงนี้กันอยู่เลยง

เป็นคนจังหวัดนนทบุรี จริงๆ พูดเหนือไม่เป็นเลย แต่เพราะอาจารย์ที่แต่งเพลงต้องการแบบนี้ เลยให้ร้องแบบนี้ อาจารย์เป็นคนใต้ แต่แต่งเพลงได้ทุกภาค เพราะในอัลบั้มชุดแรกนี่ครบทุกภาคเลยค่ะ

ที่มาที่ทำให้ได้เป็นนักร้องคือ หนูเป็นเด็กที่ทำกิจกรรมเยอะ รำ เต้น คือทุกอย่างเอาหมด เรากิจกรรมเยอะ แล้วก็ไปเรียนร้องเพลงกับเพื่อนที่ทำกิจกรรมด้วยกัน ไปเรียนร้องเพลงกับอาจารย์ ธีระพันธุ์ ชูพินิจ

อาจารย์นิรันดร์ ที่เป็นคนแต่งเพลง ก็ไปหาเด็กๆ ในโรงเรียนสอนร้องเพลง สุดท้ายมาจบที่เรา วันที่อ.ไปเจอหนู เป็นวันเกิดของอ.ธีระพันธุ์ ซึ่งเขาจัดเวทีใหญ่โต แต่ก็ไปร้องเพลงเขาก็เห็นว่าเราสปีริตดี

มีความคิดว่าที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่เอาเราเพราะว่าเขาว่าฉันไม่กล้าแสดงออก พอมาถึงที่นี่จะให้หนูทำอะไรหนูทำจะให้เต้นต่อหน้าคนในออฟฟิศหนูทำหมดเลย ให้ร้องเพลงตรงนี้หนูก็ร้องตรงนี้ให้ทำตรงนั้นก็ทำตรงนั้น

เขาก็เลยรับพอรับเสร็จเขาก็ทำเพลงออกมามันก็เลยบูมไปโดยปริยาย แม้อัลบั้มแรกจะโด่งดังเป็นพลุแตก แต่ความรุ่งโรจน์ก็อยู่ไม่นานนัก พอหนูได้ทำอัลบั้มชุดแรกหนูให้พ่อกับแม่ลาออกจากงานเลยให้มาอยู่กับหนู

ความที่เราเข้าวงการมาแต่เด็กแล้วก็เราขายความเป็นเด็ก การขายเพลงขายความเด็กขายความแปลกซึ่งมันไม่ติดตลาดเลยหยุดไปพักหนึ่ง จึงตัดสินใจค้นหาเส้นทางชีวิตเส้นใหม่เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปของครอบครัว

เราไปหาที่ขายของกับเพื่อนแล้วเจอคนที่ใจดีอยากจะให้เรามาขายของเห็นว่าเราเป็นเด็ก ซึ่งเราก็ไป แต่ที่นี้ดีอย่างหนึ่งที่เป็นการจับล็อคแบบขาจร ซึ่งขาประจำต้องจ่ายรายเดือนส่วนเราเป็นขาจรก็ต้องจ่ายรายวัน

โดยวันแรกที่เข้าไปขายรองเท้าซึ่งลงทุนกับเพื่อน ซึ่งพอเข้าไปทำก็ขายดีมาก แม้ว่าผู้เป็นพ่อเป็นแม่จะมีความกังวลและห่วงในภาพลักษณ์ของตัวลูกสาว เมื่อต้องมาเป็นแม่ค้าขายของอย่างที่เป็นอยู่

เขาก็กลัวเราอายว่าไม่อายหรอที่ทำแบบนี้และหลายอย่างด้วย แต่คำตอบของเราก็คือ ถ้าเราไปแคร์คนอื่นมากไปฟังคนอื่นมากเขาไม่ได้เอาเงินมาให้เรานะ ถ้าเขาแคร์เราแล้วเขาหยิบยื่นเงินให้เราเราก็จะไม่อะไรเลย

หนูถือคติอย่างหนึ่ง คือไม่อายทำกิน เราก็ไม่มีใครและช่วงนั้นพี่ก็ทำงานออฟฟิศแล้วก็ไม่มีงานพ่อกับแม่เราก็ไม่มีงานเพราะเราให้ออกมาตอนนั้นภาระก็เราคนเดียว ทั้งค่าบ้าน ค่าเรียน

และถึงธุรกิจขายรองเท้าจะไปได้ดี แต่แฟชั่นหรือกระแสนั้นตั้งอยู่บนความไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ร้านของ “น้องมายต์” ก็เช่นกัน พอหมดยุครองเท้าก็ขายทั้งกิ๊ฟต์ช็อป ติดฟิล์มโทรศัพท์ ขายเสื้อผ้าอะไรขายหมด

พ่อกับแม่แฟนเห็นเราคบกันกับแฟนมานานแล้วไปมาหาสู่เขามาบ้านเราเราไปบ้านเขาเขาก็เลยตกลงให้แต่งงานกัน รู้จักกันมานี้เข้าปีที่ 13 แล้วค่ะแล้วมาคบกันจริงจัง 4-5 ปีแล้วตกลงมาแต่งงานตอนนี้ก็แต่งงานได้ 4 ปีแล้ว

และนั่นคือที่มาของ น้องใยไหม ลูกสาวสุดที่รักในวันนี้ ที่เป็นกำลังใจสำคัญสำหรับคุณแม่และคุณพ่อ ถามถึงเรื่องลูก มีวิธีเลี้ยงลูกให้รู้จักการใช้เงิน ประหยัดอดออม ก็จะสอนเขา คุยกับเขาด้วยเหตุผล
