Connect with us

Uncategorized

บ้านสวน อูม วิยะดา

Advertisement

เรียกว่าหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงอยู่พักใหญ่เลยก็ว่าได้สำหรับ ‘วิยะดา อุมารินทร์’ หรือ ‘หม่อมอูม วิยะดา ยุคล ณ อยุธยา’ ที่เคยใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ ‘ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลฯ

แต่ทั้งคู่ก็แยกทางกันมากว่า 20 ปีแล้ว โดยทั้งคู่มีทายาท 2 คน นั่นก็คือ ‘คุณชายเอี่ยว’ และ ‘คุณหญิงแมงมุม’ โดยปัจจุบัน ‘หม่อมอูม’ ได้ย้ายบ้านไปใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.เลย ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ

ผันตัวทำไร่ ทำสวกว่า 6 ปี เลี้ยงเป็ดไก่-ปลูกพืชผัก ไว้กินเอง บอกบั้นปลายชีวิต อยากจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ รับคิดถึงงานในวงการ คิดถึงแสงสีเสียง หากมีละครติดต่อมาก็ยังรับเล่น เป็นบทแบบไหนยังไงก็ได้

Advertisement

“ตอนนี้มีบ้านอยู่ที่ จ.เลย ปลูกต้นไม้เยอะมาก แล้วก็ไม่ค่อยได้ตัดด้วย ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เหมือนกับบ้านป่าเลยค่ะ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ปลูกอโวคาโด้ ปลูกผักที่กินได้ ปลูกมะนาว

แต่เราไม่ได้ขายนะคะ เราเอาไปแลกกับชาวบ้าน สมมุติเรามีมะนาวเยอะ เราก็เอาไปแลกข้าว ไข่เป็ดก็เอาไปแลกเกลือ (หัวเราะ) อยู่แบบสมัยโบราณเลย พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ได้ค่ะ อยู่ติดแม่น้ำเลย

ปรับตัวเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะว่าเราอยู่เมืองกรุงมาตลอดชีวิตเลย พออายุมากขึ้นต้องไปอยู่ที่ธรรมชาติ ๆ ตอนแรกเราก็คิดว่าจะอยู่ไม่ได้นะ แต่พออยู่ไปอยู่มามีความสุขมากเลย อากาศก็ดี อากาศบริสุทธิ์

Advertisement

แล้วก็ได้อยู่กับธรรมชาติจริง ๆ ทำมา 5-6 ปีแล้ว คือลูกชายเขาไปชอบที่ตรงนี้ เขาก็บอกว่าอยากจะมาทำให้แม่อยู่ตอนที่แม่อายุมากๆ แม่จะได้มีที่เดินเยอะๆ และมีอากาศบริสุทธิ์ แต่พอไปๆมา ๆ เขาก็อยู่เอง

ปลูกบ้านเสร็จเขาก็ไปอยู่เอง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทำเกษตรผสมผสานแบบที่รัชกาลที่ 9 สอน แล้วเขาก็มีความสุขอยู่ที่นั่น เขาไม่ยอมมากรุงเทพฯเลย แม่ต้องบินขึ้นไปหาเขา แม่ก็ไม่ได้ไปอยู่ประจำ

ช่วงไหนที่ไม่มีละคร ช่วงไหนที่ว่างมากสัก 3-5 วัน ก็จะไปหาเขา ไปอยู่ที่นั่นค่ะ หลาน ๆ ก็ชอบ เด็ก ๆ ชอบมาก เพราะว่าเป็นชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับสัตว์ อยู่กับต้นไม้ มันจะมีความรู้สึกว่าจิตใจเราเบิกบาน

Advertisement

ตอนนี้เราไม่ได้ทำขาย แต่ก็อยากจะทำเป็นธุรกิจเหมือนกันถ้าสมมุติเรามีผลิตภัณฑ์อะไรที่มันเยอะมากๆเราก็จะขาย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ไม่ได้ขาย แจกมั่ง แลกมั่ง เราเอาของนี้ไปให้เขา

แล้วเขาก็เอาของมาให้เรา ขนาดขนมากรุงเทพฯ มาแจก คนที่ได้รับของจากเราก็จะเอาของมาแลกให้เราด้วย เหมือนว่าเราไม่ต้องใช้เงินซื้อค่ะ ถ้าถามว่าเราเคยอยู่ในวงการ พอมาอยู่แบบนี้มันเสียดาย หรือเหงาไหม

ไปอยู่ตรงนั้นก็คิดถึงนะคะ สมมุติว่าเราหยุดเป็นเดือน บางทีช่วงก็เหงาค่ะ คิดถึงค่ะ ทำไมแสง สี เสียง เราไม่ได้เห็นเลย พอกลับมากรุงเทพฯ ตื่นตาตื่นใจมาก (หัวเราะ) คนละเรื่องกับที่นั่นเลย

Advertisement

พอมืดแล้วมืดจริงๆ มืดมาก พอตื่นเช้ามาก็จะได้ยินแต่เสียงธรรมชาติ เสียงรถ เสียงแอร์ เราก็มีความรู้สึกบางทีเราก็อยากกลับกรุงเทพฯ บ้าง แต่พอกลับมากรุงเทพฯเราก็รำคาญอีกล่ะ (หัวเราะ) ต้องไปอยู่ที่นั่นอีก

คิดว่าจะไปอยู่ที่นั่นถาวรในตอนที่ไม่มีงาน ถ้าสมมุติไม่มีงานส่วนมากก็อยากจะไปอยู่ที่นั่นนาน ๆ เพราะว่ามันทำให้เราปล่อยตัวได้ตามสบาย ออกไปไหนมาไหนเราก็ไม่ต้องแต่งหน้า เป็นตัวของตัวเองเต็มที่

คือตัดทิ้งหมดเลยอะไรที่ทำให้เราอารมณ์ไม่ดี เราต้องตัดทิ้งหมดเลย ออกกำลังกายทุกเช้า ตื่นขึ้นมาก็ทำโน้นทำนี่ กวาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ทำหมดเพราะเราคิดว่าออกกำลังกาย ไม่ได้คิดว่าเป็นภาระ ไม่ใช่ค่ะ”

Advertisement
Advertisement

error: Content is protected !!