ล่าสุด ต้องบอกว่ารายการ The Wall Song ร้องข้ามกำแพง ประจำสัปดาห์นี้ (17 มีนาคม 2565) ทำเอาหลายคนถึงกับร้องโอ้โห

เพราะไม่เพียงแต่แก๊ง 3 ช่าเท่านั้นที่มาเป็นแขกรับเชิญ แต่นักร้องที่จับคู่กับ หม่ำ จ๊กมก ก็จัดว่าเด็ดดวงไม่แพ้กัน โดยนักร้องปริศนาคนนี้

ถือเป็นระดับตำนานของวงการเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งก็คือ แอ๊ด คาราบาว นั่นเอง แถมหม่ำก็ยังทายถูกอีกด้วย เพราะแขกรับเชิญคนอื่นๆ

ดันเผลอหลุดคีย์เวิร์ดสำคัญว่า “อู่ข้าวอู่น้ำ” ทำให้หม่ำไปโยงกับจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักร้องปริศนาคนนี้จนตอบได้ถูกต้อง

แม้ว่าจะยังไม่เฉลย ต่อให้ โหน่ง ชะชะช่า จะเล่นมุกในทำนองที่ว่าอายุพอๆกับนักร้องปริศนาคนนี้ เจอกันเดินทักทายตบบ่ากันแต่ก็ไม่ทันแล้ว

เพราะหม่ำเชื่อมั่นใจคำตอบของตัวเอง ซึ่งพอกำแพงเปิดออกมา หม่ำก็ดีใจสุดขีดที่ตอบถูก ซึ่งจากคนจนผู้ยิ่งใหญ่ สู่อาณาจักรคาราบาวแดง

หมื่น ล. ซึ่งดูแล้วชีวิตมีแต่การทำงาน และเชื่อว่าน้อยคนที่จะเคยได้เห็นภรรยาของน้าแอ๊ด “ลินจง โอภากุล” ภรรยาสุดสวยของน้าแอ๊ดอย่างแน่นอน

ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 3 คน เป็นหญิง 2 คน คือบุตรสาวคนโต “ณิชา โอภากุล” และบุตรสาวคนเล็ก “นัชชา โอภากุล” และชาย 1 คน

คือ “ร.ต.ท.วรมันต์ โอภากุล” ซึ่งวันนี้พามาเปิดบ้านอีกหลังของนักร้องเพลงเพื่อชีวิตผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงคาราบาว นั้นคือ “ยืนยง โอภากุล”

หรือที่รู้จักกันดีในนาม “แอ๊ด คาราบาว” โดยวันนี้คนที่รับหน้าที่พาชมบ้านทุกซอกทุกมุม ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นบุตรสาวคนโตคนสวยของพ่อแอ๊ด

“เซน ณิชา โอภากุล” (และมีแม่ปุ๊กคอยช่วยดูแลอยู่ใกล้ๆ) เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไม่กี่ชั่วโมง ก็ถึงดินแดนอันร่มรื่นภายใต้ชื่อ “บ้านไร่กูไม่เบื่อ”

สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งชื่อนี้พ่อแอ๊ดเป็นคนตั้งเองด้วย “ตอนแรกบ้านนี้ชื่อร็อกแอนด์โฮมก็ตั้งตามสไตล์ของบ้าน แต่บิดามาเปลี่ยนทีหลังเป็นบ้านไร่กูไม่เบื่อ

เพราะมากี่ทีๆกูก็ไม่เบื่อเลย บ้านหลังนี้ใกล้กรุงเทพฯ พ่อแอ๊ดเลยมาบ่อย มากับแก๊งฮาร์เลย์ของเขา เมื่อก้าวเข้าไปยังบริเวณบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้อันร่มรื่น

และได้พบเจ้าบ้านอย่าง พี่แอ๊ด คาราบาว ซึ่งก็เริ่มเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปของบ้านหลังนี้ว่าตนอยู่บ้านหลังนี้ได้ราว 3 ปีแล้ว ซึ่งเป็นบ้านที่ตนซื้อต่อจากชาวบ้าน

ที่แต่ก่อนเป็นยุ้งข้าวมาก่อน โดยที่แห่งนี้เป็นการสร้างแบบสมัยก่อน เรียกได้ว่า มีความทนทานมาก เนื่องจากเป็นเสา 8 เหลี่ยม ส่วนตัวบ้านตนก็ออกแบบดีไซน์ใหม่ทั้งหมด