‘พิมพา พรศิริ’ หมอลำแถวหน้าของเมืองไทย จากที่ราบสูงที่แจ้งเกิด ดังกระหึ่มทั่วไทยในยุคเทปคาสเซ็ท กับผลงานอัลบั้มแรก

ในชีวิตขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่กี่สัปดาห์ยอดขายเกินล้านตลับ ฉายแสงสง่างาม จารึกชื่อในทำเนียบนักร้องดังล้านตลับ ขณะมีอายุแค่เพียง 17 ปี

มีผลงานเพลงมากว่า 70 อัลบั้ม และยังเคยได้รับรางวัลผู้ขับร้องเพลงลูกทุ่งดีเด่น ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ภาค 2 ประจำปี 2534

ก่อนหน้านี้ นักร้องแนวหมอลำที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ มีผลงานเพลงกว่า 70 ชุด ตัดสินใจขายทาวน์เฮ้าส์ย่านจรัสสนิทวงศ์ โบกมือลาความศิวิไลซ์

กลับบ้านเกิด บ้านกันกง ต.ละหาน อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ ‘พิมพา พรศิริ’ ที่มีชื่อเล่นว่า ‘หนูแดง’ ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย

บ้านที่อยู่ในปัจจุบันไม่มีไฟฟ้าใช้ พึ่งพาธรรมชาติเต็ม และพืชพรรณธัญญาหารปลูกเสริมจากสองมือ

“ทุกวันนี้กินนอนอยู่ที่ทุ่งนาเลยค่ะ บ้านหนูแดงเป็นบ้านธรรมชาติ ไม่มีไฟฟ้าเข้ามา เพราะว่าแถบนี้คนไม่ค่อยสร้างบ้านกัน อยู่ด้วยโซล่าเซลล์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วย

กินข้าวก็กินธรรมดานี่แหละ หุงด้วยฟืน หุงฟืนมันหอม เราก็ใช้ต้นไผ่แถวนี้ที่มันแห้งแล้วทิ้งไปไม่เกิดประโยชน์

เรานำมาใช้ประโยชน์ ข้างบ้านมีบ่อน้ำ ทำนามีข้าวกิน ปลูกพริก มะเขือ มะนาว มีหลายอย่าง ไม่ต้องซื้อ”

ในวัย 53 ปี เจ้าของรางวัลผู้ขับร้องเพลงลูกทุ่งดีเด่น “กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย” ประจำปี พ.ศ.2534 เคยมีวงดนตรี พิมพา พรศิริ มีลูกน้องกว่า 300 ชีวิต

เดินสายแสดงคอนเสิร์ตทั่วไทย ยอมรับเส้นทางศิลปินเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เธอไม่เคยยึดติดกับความสำเร็จในอดีต เข้าใจชีวิตมีขึ้นมีลง

“อัลบั้มแรกถือว่าสุดยอดแล้ว ทำให้เรามีชื่อเสียง เพลงแรกก็พุ่งสูงสุด แล้วมันก็ค่อย ๆ ลง เป็นธรรมดาของชีวิต แม้แต่ตัวเรายังแก่ทุกวัน

งานการไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ก็มีงานละคร ร้องเพลงบ้าน เราก็อยู่ในสิ่งที่มันค่อยขึ้นค่อยลงให้มันปกติ ทำให้เราไม่ซีเรียส อยู่แบบเข้าใจ เข้าใจชีวิตตัวเอง

เราจะอยู่กับมันได้อย่างไม่ต้องซีเรียส ไม่ทุกข์ ระยะเวลาสถานการณ์มันทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนให้มันลงตัว ตอนนี้อยู่ตรงนี้ก็โอเคสงบดี

หันหน้าเข้าหาธรรมะ ทำที่เป็นบ้านส่วนตัว ปฏิบัติตัวเองนี่แหละ สร้างตัวเองก่อน ดูจิต ดูกายของตัวเอง คนอื่น ๆ ก็สามารถเข้าไปคุยเรื่องธรรมกันได้”