เชื่อว่าหลายคนคงจำกันได้สำหรับ แม่สีดา พัวพิมล แม่ของอดีตพระเอกผู้จากไป อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล ที่ได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

โดยทางด้าน แม่สีดา นั้นเคยมีผลงานละครต่างๆมากมายในอดีต แต่ต้องบอกเลยว่าปัจจุบัน แม่สีดา นั้นมีชีวิตค่อนข้างที่จะลำบากเรียกได้ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เลยก็ว่า หลังจากที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวอย่าง อ๊อฟ อภิชาติ ไป ซึ่งปัจจุบันชีวิตของ แม่สีดา นั้นก็ลำบากๆมีเพียงทางด้านอดีตคนรักของลูกชาย

อย่าง ต่าย สายธาร นิยมการณ์ คอยดูแลตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยทางด้าน แม่สีดา เคยบอกว่าตอนนี้คิดถึงทั้งลูกสาวและลูกชาย เพราะออกมาอยู่เพียงลำพัง

ตัวคนเดียวอาศัยห้องเช่าเล็กๆแคบๆอยู่ ลูกสาวไปมีครอบครัวไม่เคยติดต่อมา ไม่ได้เจอหน้าลูกสาวมาหลายปี คิดถึงอยากเจอหน้าลูกสาว

ปัจจุบัน แม่สีดา อายุ 67 ปี และต้องบอกว่า แม่สีดา นั้นดูผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะภาพล่าสุดที่ทางด้านอดีตคนรักของลูกชาย

ต่าย สายธาร ได้พาไปทำบุญครบรอบการจากไป 15 ปี ของ อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล โดยก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความเป็นห่วงอย่างมากมายเลยทีเดียว

ในส่วนของลูกสาว ตนก็รอทุกปีให้เขาติดต่อกลับมา เพราะยังไงตนก็เป็นแม่ แล้วเขาก็เป็น สุดรักสุดดวงใจของตน ยอมรับว่า

ตอนนี้ตนทั้งรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ก็ต้องอดทน สําหรับเรื่องความเป็นอยู่ของตน ลำบากมากที่สุด ยิ่งมีสถานการณ์แบบนี้มายิ่งลำบากมากที่สุด งานการต้องหยุด

จากไม่เคยอยู่ห้องเช่าก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะงานก็ไม่มีเลย รายรับจึงเท่ากับศูนย์ แต่รายจ่ายทั้งค่าเช่าห้อง ค่ากินค่าใช้ ก็ประมาณ 10,000 บ. ต่อเดือน

ทุกวันแม่ เขาก็จะพาไปกินข้าวนอกบ้าน รวมถึงมีดอกไม้มาให้ด้วย นอกจากคิดถึงลูกชายแล้ว ยังคิดถึงลูกสาวด้วย เพราะตอนนี้ตนแยกมาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง

เนื่องจากอยากจะต่อสู้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว ส่วนลูกสาวก็ให้อยู่กับครอบครัวของเขา ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้โทรศัพท์มาสุขสันต์วันแม่ เพราะตนและลูกสาวไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว

ตนยังมีเพื่อนดีเพื่อนๆที่รู้จักกันตั้งแต่ยังไม่เป็นนักแสดง อาทิ นวลปรางค์ ตรีชิต, แต้ม รุ่งนภา รวมถึงแฟนเก่าของลูกชาย อย่าง ต่าย สายธาร ก็คอยเอาอาหารมาให้ทุกวัน ให้ตนได้อิ่มในแต่ละมื้อ

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าที่ผ่านมานักแสดงรุ่นใหญ่ สีดา พัวพิมล มีเรื่องสุขภาพดวงตา จนทำให้ไม่สามารถอ่านบทได้อย่างชัดเจน และจำต้องบอกปัดรับงานในวงการบันเทิง

ในตอนนี้ แม่สีดา พัวพิมล พร้อมกลับมารับงานในวงการบันเทิงในรอบ10 ปี ประเดิมถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง ไม่อยากเป็นภาระของนักแสดงท่านอื่นๆ