จากกระแสความดังของรายการของช่องนิตยสารแพรวในยูทูป ที่สู่ขวัญพาเหล่าสาวๆไปช็อปเลือกสินค้าต่างๆด้วยความเป็นธรรมชาติที่ดูน่ารักเวลาเลือกซื้อของ และลักษณะคำพูดของเธอนี่เอง

ที่สร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะให้กับคนดู ด้านครอบครัว หลายคนอาจจะติดใจกับนามสกุล ‘บูลกุล’ ของเธอว่า เอ๊ะ เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าของฟาร์มโชคชัยรึเปล่า เธอคนนี้คือภรรยาของคุณโชค บูลกุล

มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศไทย แต่ว่าถ้าใครกำลังคิดว่า อ๋อ แต่งเพราะรวย ขอบอกเลยนะคะ ว่าไม่ใช่ เพราะคุณสู่ขวัญเองนั้น แต่เดิมเธอก็มีฐานะอยู่แล้ว ดูได้จากประวัติการศึกษาของเธอที่ล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดา

คุณสู่ขวัญเริ่มเข้าสู่วงการโดยการเป็นผู้ประกาศข่าวร่วมกับคุณสรยุทธในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ พร้อมทั้งเป็นพิธีกรรายการรูปล้านเรื่อง นอกจากนี้ยังเคยฝากฝีมือการแสดงใน Project S The Series Side by Side

พี่น้องลูกขนไก่ และที่เคยเป็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ รัก 7 ปี ดี 7 หน ประกบคู่กับไอดอลแดนกิมจิ สัญชาติไทยอย่างนิชคุณ ด้วยเพราะการแสดงที่เข้าถึงอารมณ์ ทำให้คนดูต่างพากันออกปากชม

โชค บูลกุล กรรมการผู้จัดการกรุ๊ปบริษัทฟาร์มโชคชัย เป็นผู้บริหารที่ปรากฏตัวอยู่ในสื่อและเป็นที่เอ่ยถึงตลอดเวลาในฐานะผู้นำพาฟาร์มโชคชัยจากวิกฤตหนี้มหาศาลสู่ต้นแบบฟาร์มวัวที่ประสบความสำเร็จ

เคยได้รับการแต่งตั้งจากราชินีราเนียแห่งประเทศจอร์แดนให้เป็นหนึ่งในสมาชิกกรุ๊ปผู้นำสายพันธุ์ใหม่ของโลก จากเวที World Economics Forum เมื่อปี 2549

โชคชัย เป็นลูกคนที่ 7 ในหมู่พี่น้อง 8 คน เป็นบุตรชายของ มา และ บุญครอง บูลกุล เจ้าของอาณาจักรโรงสีและค้าข้าวระดับเจ้าสัว และเจ้าของห้างสรรพสินค้ามาบุญครองในเวลาต่อมา

ภายหลังมีการเปลี่ยนเจ้าของและห้างมาบุญครองก็เปลี่ยนชื่อเป็น เอ็มบีเค แต่โชคไม่เข้าข้างเขาตั้งแต่เกิด เนื่องจากโชคชัยเป็นลูกคนเดียวที่เกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ไม่เคยมีพี่เลี้ยงและของเล่นอย่างพี่น้องคนอื่นๆ

แม้จะเป็นฝันวัยเด็ก แต่โชคชัยมุ่งมั่นกับความฝันกว่าที่ใครจะคาดคิด เมื่ออายุ 15 ปี คุณแม่บุญครองส่งเขาไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา จากนั้นโชคชัยขีดเส้นทางเดินให้ตัวเองด้วยการเลือกเรียนด้านสัตวบาล

โชคชัยเพิ่งกลับจากเมืองนอกและยังไม่มีทุนรอน จึงเลือกขอทุนตั้งตัวจากพ่อแม่มา 1 แสนบาทเพื่อจะซื้อที่ดินทำฟาร์มในฝัน มาและบุญครองสุดจะห้ามความตั้งใจของลูกชายจึงให้ทุนกับโชคชัยไป

แต่ให้เพียง 2 หมื่นบาทเท่านั้น ข้างหนุ่มน้อยผู้ฝันอยากเป็นคาวบอยและก็เกกมะเหรกเกเรอยู่พอใช้ เมื่อทุนน้อยเกินไปจึงเลือกหาทุนเพิ่ม เขาสมอ้างเป็นลูกเจ้าสัวยึดข้าวสารจากโรงสีไฟที่โคราชของครอบครัวมาจำหน่าย

เพื่อนำเงินไปซื้อที่ดิน 250 ไร่ แถมยังใจเด็ดขายรถสปอร์ตออสตินอีลี่ เพื่อแปลงเป็นแทร็กเตอร์คันแรกของฟาร์มโชคชัย โชคชัยได้เป็นคาวบอยสมใจอยาก และเป็น “หมอโซค” ที่ชาวบ้านเรียกขานเพราะฝีมือด้านการปศุสัตว์

เขาเริ่มต้นด้วยการเลี้ยงโคเนื้อ 8 ตัว และมีคนงาน 7 คน ก่อนขยายกิจการทำแปลงผักกะหล่ำ ปลูกข้าวโพด และเลี้ยงไก่ไข่ เวลาผ่านไป 7 ปี ความจริงขยับมารุกรานความฝันของโชคชัย

เมื่อฟาร์มทำรายได้เพียง 6 หมื่นบาทต่อปี ขณะที่หนี้สินพอกพูนไปถึง 9 แสน เขารู้แน่ว่าฟาร์มกำลังจะไปไม่รอดจึงต้องยอมประกอบอาชีพอื่นเพื่อเลี้ยงฟาร์มให้อยู่ต่อได้

คำชักชวนของเพื่อนทำให้โชคชัยมีโอกาสนำรถแทร็กเตอร์ รถตัก และถังผสมปูนจากฟาร์มไปรับเหมาก่อสร้างสนามบินให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ จ.อุดรธานี เพียงแค่โครงการแรกเขาก็ได้เงินมากว่าแสน

และได้ต่อยอดไปสู่การรับเหมาก่อสร้างให้อีกหลายสนามบินของฐานทัพสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาที่โชคชัยทำงานก่อสร้าง เขายังคงนำมาลงทุนกับฟาร์มอย่างต่อเนื่อง ทั้งขยายที่ดินและฝูงโค

เมื่อผิดพลาดกับอาชีพรับเหมาเขาก็เพียงแค่บ่ายหน้ากลับสู่ อ.ปากช่อง และมุ่งมั่นต่อไป